เปิดเหตุผล ‘ไทย’ งดเว้นออกเสียง ตำหนิรัสเซียใน UNGA
ภายหลังที่ห้องประชุมคณะผู้แทนใหญ่องค์การสหประชาชาติ (UNGA) ที่สำนักงานใหญ่ยูเอ็นในนครนิวยอร์ก ได้มีการจัดลงความเห็นตำหนิรัสเซียประมือณีการรวม 4 ดินแดนยูเครนเข้ามาเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของรัสเซีย ตอนวันที่ 12 ต.ค. ตรงเวลาแคว้น โดยมี 143 ประเทศ จาก 193 ชาติสมาชิกที่โหวตช่วยเหลือข้อความเห็นดังที่กล่าวมาข้างต้น เวลาที่ไทยอยู่ในกรุ๊ปประเทศที่งดเว้นออกเสียง 35 ประเทศ ร่วมกับลาว เวียดนาม จีน ประเทศอินเดีย
นายสุริยง จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ได้เอ่ยถึงเหตุผลของไทยที่ตกลงใจงดเว้นออกเสียง โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้
1.ในฐานะประเทศขนาดเล็กที่มีอำนาจธิปไตย เมืองไทยยึดมั่นกฎบัตรบัตรองค์การสหประชาชาติแล้วก็กฎหมายระหว่างประเทศเป็นหลักเหมือนแนวคุ้มครองท้ายที่สุด ไทยยังยึดมั่นโดยชัดแจ้งต่อวิธีการนับถืออำนาจอธิปไตยแล้วก็บูรณภาพที่ดินแดนของเมืองต่างๆตามหลักของกฎบัตรที่ยูเอ็น
เมืองไทยยึดมั่นแผนการมาอย่างนานรวมทั้งสม่ำเสมอว่าจะปฏิเสธการข่มขู่ทำให้รู้สึกกลัวรุกรามหรือใช้ความรุนแรงต่อบูรณภาพที่ดินแดนของเมืองใดเมืองหนึ่งรวมทั้งการใช้กำลังรวมดินแดนของเมืองอื่นโดยมิได้ถูกยุ
2.อย่างไรก็ตาม เมืองไทยเลือกที่จะงดเว้นออกเสียงลงคะแนนต่อข้อความเห็นซึ่งเกิดขึ้นในตอนที่มีการเปลี่ยนบรรยากาศและก็มีเหตุการณ์ขึ้นลงอย่างหนัก ซึ่งเป็นการมีค่าเพียงน้อยนิดต่อช่องทางที่การทูตจะมีผลให้มีการพูดจาข้อความเห็นที่สงบสุขรวมทั้งปฏิบัติได้จริงเพื่อปรับแก้ความไม่ถูกกันซึ่งบางทีอาจผลักให้โลกไปสู่การเสี่ยงของสงครามนิวเคลียร์รวมทั้งการชำรุดทลายของเศรษฐกิจโลก
3.เมืองไทยมีความห่วงวิตกกังวลอย่างแท้จริงต่อการแบ่งแยกขั้วด้านการเมืองที่สูงขึ้นในแนวทางระหว่างชาติซึ่งนำไปสู่ผลในทางลบต่อขั้นตอนการและก็กรรมวิธีจบการศึก การตราหน้านั้นยุให้กำเนิดความต่อต้านรวมทั้งตัดทอนจังหวะของการมีความสัมพันธ์อย่างประดิษฐ์เป็นอย่างยิ่ง
4.เมืองไทยเศร้าโศกเศร้าใจกับการล้มล้างทางด้านกายภาพ ทางด้านสังคม รวมทั้งทางมนุษยธรรมของยูเครนรวมทั้งความเหนื่อยยากที่ร้ายแรงซึ่งราษฎรชาวยูเครนจะต้องทนทุกข์ ไทยก็เลยอยากย้ำถึงความต้องการที่ผู้มีส่วนเกี่ยวโยงทั้งหลายแหล่ในเรื่องโศกเศร้าในยูเครนนี้ต้องลดการขัดกันแล้วก็ความร้ายแรง อีกทั้งพากเพียรแสวงหาสันติวิธีเพื่อจัดแจงกับความไม่ลงรอย โดยอิงกับเรื่องจริงที่ปฏิบัติได้รวมทั้งข้อห่วงไม่ค่อยสบายใจจากทุกฝ่าย ความยั่งยืนและมั่นคงของผู้คนและก็สิทธิสำหรับเพื่อการมีชีวิตนั้นเป็นเสาหลักที่สำคัญในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (ข้อ3) แล้วก็ถึงตอนนี้สิทธิดังที่กล่าวมาข้างต้นได้ถูกพรัดพรากชาวยูเครนแล้วก็พสกนิกรอีกหลาย ล้านคนทั่วทั้งโลก มันก็เลยเป็นหน้าที่แล้วก็ความรับผิดชอบสูงสุดของหน่วยงานที่ได้รับความเคารพนับถือสูงสุดที่นี้สำหรับเพื่อการนำความสงบสุขและก็ความธรรมดาสุขของชีวิตกลับมาสู่ชาวยูเครน ไม่ใช่โดยการใช้ความร้ายแรงแม้กระนั้นด้วยกลไกทางการราชทูตเพียงแค่นั้นที่จะสามารถนำความสงบสุขกลับมาได้จริงแล้วก็โดยถาวร