วิพากษ์ตั้ง กิโลกรัมสางบ่อน-แรงงานไม่ถูก กิโลเมตร แก้ไขปัญหาหรือเพียงแค่ยืดเวลา?!
หมายเหตุ – ข้อคิดเห็นนักวิชาการรวมทั้งองค์กรพัฒนาเอกชน กรณี พล.อำเภอประยุทธ์ จันทร์โอชะ นายกฯ แต่งคณะกรรมการวิเคราะห์ความประพฤติความผิดพลาดกรณีสถานที่เล่นการเดิมพัน รวมทั้งภาควิชาวิเคราะห์ความประพฤติข้อผิดพลาดลักลอบนำแรงงานไม่ถูกกฎหมายเข้าประเทศ ซึ่งเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดของวัววิด-19 รอบใหม่นั้น
บูฆอรี ยีหมะ
นักวิชาการแผนกรัฐประศาสนศาสตร์ มรภ.จังหวัดสงขลา
ยังไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะตั้งผู้ตัดสิน 2 ชุด เพื่อจัดการกับปัญหาบ่อนพนันรวมทั้งแรงงานโหดร้าย เพื่อลดกระแสติชมไหม อีกทั้งในด้านของการควบคุม การคุ้มครองวัววิด-19 หรืออีกประการการก่อตั้งผู้ตัดสินโดยหวังว่าจะช่วยลดกระแสกรณีบ่อนการพนันที่มีอยู่จริง
แต่ว่าหน่วยงานราชการไม่ให้ความสนใจมิได้มีมาตรการปรับแต่งอย่างเอาจริงเอาจัง ช่วงเวลาที่ตำรวจและก็ฝ่ายปกครองที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรง เพื่อจัดแจงกับของผิดกฎหมายในแต่ละเขตพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบ ก็เลยไม่รู้เรื่องว่าเพราะเหตุไรต้องตั้งผู้ตัดสินขึ้นมาอีก ในขณะที่การเปิดบ่อนการเดิมพันเกิดเรื่องโบราณมิได้มีความสลับซับซ้อน กลไกเมืองที่มีก็สามารถจัดแจงได้ในพื้นที่ของตนเอง แม้กระนั้นการทำงานบางทีอาจจะขาดความสามารถหรือเปล่าเช่นไรสำหรับเพื่อการปรับปรุงแก้ไขหรือปกป้องปัญหา
ตอนที่แรงงานต่างชาติก็มีหน่วยงานที่ควบคุมดูแลทั้งยังกระทรวงแรงงาน หน่วยงานด้านความมั่นคงและยั่งยืนตามแนวชายแดนมีข้าราชการทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ฝ่ายปกครอง ถ้าหากทุกหน่วยงานดำเนินงานไม่อ้อมค้อมเห็นแก่คุณประโยชน์ของชาติ ก็ไม่มีความสำคัญจำเป็นที่จะต้องตั้งผู้ตัดสินขึ้นมาเรียนอีก แต่ว่าจำเป็นต้องรู้เรื่องว่าในประเทศไทยถ้าหากมีปัญหาอะไรก็ชอบตั้งผู้ตัดสิน ช่วงเวลาที่กลไกเดิมยังปฏิบัติหน้าที่ธรรมดา ก็เลยคงจะสะท้อนให้มีความคิดเห็นว่ากลไกเดิมไม่ทำงานหรือปฏิบัติงานมิได้จากเหตุผลใด หากแม้ในเหตุการณ์ธรรมดาที่ไม่มีวัววิด-19 การขโมยลอบเปิดบ่อน ให้แรงงานหยาบคายเข้ามาไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็จัดว่าผิดจำเป็นต้องสำหรับหน่วยงานที่ควบคุมดูแล
ขอชี้แนะให้ปัญหาทั้งยัง 2 กรณีควรจะใช้กลไกเดิมที่มี จะทำยังไงให้ดำเนินการได้อย่างมาก ไม่มีปัญหาลูบคลำหน้าปะจมูก ไม่สนใจว่าจะใบสั่งจากคนใดกัน ภายใต้การบ้านการเมืองแล้วก็การจัดการราชการแผ่นดินในระบบค้ำจุน รัฐบาลจำต้องมีความสนใจว่าจะไขปัญหานี้ได้ไหม เพื่อทุกฝ่ายดำเนินการขวานผ่าซาก
โดยบางทีอาจใช้มาตรการหรือหลักการที่เคร่งครัด ทำให้พสกนิกรมีความรู้สึกว่าจะไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นอีกในอนาคต ที่สำคัญเมื่อพลเมืองคนธรรมดาทั่วไปทราบดีว่าที่ไหนมีบ่อนในอำเภอหรือจังหวัด ถ้าหน่วยงานราชการไม่เคยทราบ ไม่มีรายงานทางการข่าวสารก็ถือได้ว่าเรื่องที่น่ามหัศจรรย์ เป็นได้ไหมที่หน่วยงานราชการไม่รู้จักโดยหน้าที่รับผิดชอบ
เหมือนกับการเช็คราคาล็อตเตอรี่แล้วไม่พบว่ามีการขายราคาเกิน 80 บาท หรือไปตรวจการขายประเวณี ในเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวมากมายเป็นจำนวนมากบางพื้นที่แล้วกล่าวว่าไม่มีหรือเปล่า ทำให้ประชากรที่รู้ข่าวสารหัวเราะตลกขบขัน
สำหรับในการทำบ่อนให้ถูกต้องตามกฎหมายน่าจะเป็นทางออกที่สมควร ถ้าเกิดเห็นด้วยความเป็นจริงว่าการพนันเป็นธรรมชาติของผู้คนหรือเปล่า
ด้วยเหตุนี้ ทางออกเพื่อการเล่นการเดิมพันเมืองสามารถควบคุมควบคุมดูแล เก็บภาษีบาปได้ราวกับการเก็บภาษียาสูบหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมที่เป็นแอลกอฮอล์ มีการระบุตัวบุคคลที่จะเข้าไปใช้บริการราวกับบ่อนฝรั่งซึ่งบางครั้งก็อาจจะจัดให้มีเฉพาะเมืองใหญ่ อาทิเช่น กรุงเทพมหานคร หรือในจังหวัดขนาดใหญ่ ก็คงจะสมควรกว่าในขณะนี้ที่มีการลักลอบเล่นการเดิมพันจนกระทั่งทำให้มีปัญหาหลายประการทั้งๆที่มีกระทบกับสุขภาพจากการระบาดเฉองวัววิด-19 และปัญหาที่เกิดขึ้นกับสังคม
แล้วก็สะท้อนถึงความผิดพลาดของกลไกภาครัฐสำหรับเพื่อการบังคับใช้ข้อบังคับ
สีขาว เวียนทองคำ
คุณครูสาขาวิชารัฐศาสตร์การปกครอง คณะสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหามงกุฎราชวิทยาลัย (มนาย) วิทยาเขตล้านนา
กรณี พล.อำเภอประยุทธ์ จันทร์โอชะ นายกฯ แต่งคณะกรรมการเรียนบ่อนการพนัน รวมทั้งแรงงานไม่มีอารยธรรมนั้น ไม่เห็นพ้อง เนื่องจากไขปัญหาไม่ถูกจุด ไม่ตอบปัญหา ก่อนหน้าที่ผ่านมามีข้อบังคับควบคุมดูแล และก็ข้าราชการทำหน้าที่อยู่แล้ว แม้กระนั้นเพิกเฉย รวมทั้งยกเว้นการกระทำหน้าที่มาตลอด ทำให้บ่อนการพนันและก็แรงงานโหดร้าย ตั้งรกรากลึกมายาวนาน ขจัดปัญหามิได้ เนื่องจากว่าส่งผลผลดีมาเกี่ยวเนื่อง
รัฐบาลควรจะไปควบคุมควบคุมข้าราชการให้ทำตามข้อบังคับอย่างเคร่งครัด ไม่ใช่ตั้งคณะกรรมการเรียนรู้จัดการกับปัญหา ด้วยเหตุว่าไม่กำเนิดผลดีประการใด เป็นการสิ้นเปลืองเวลา งบประมาณ เจ้าหน้าที่โดยไม่จำเป็น
ซึ่งการตั้งคณะกรรมการดังกล่าวข้างต้น คิดว่าเป็นการลดกระแสบีบคั้นและก็ต้านทานรัฐบาลแค่นั้น ที่ปลดปล่อยให้มีการระบาดวัววิดรอบใหม่ จนกระทั่งทำให้เศรษฐกิจทรุด ประชากรลำบากเยอะขึ้น เพราะฉะนั้น จะต้องเอาจริงเอาจังข้าราชการ รวมทั้งบังคับใช้ข้อบังคับขมักเขม้น ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาข้าราชการรู้เหตุการณ์มาตลอด มี “นักบิน” บางหน่วยงานเดินสายเก็บส่วยทั่วราชอาณาจักรอีกทั้งบ่อนและก็แรงงานรุนแรง โดยใช้แนวทางโจมตีเมืองขึ้น รวมทั้งขึ้นบัญชีเก็บส่วยไว้แล้ว
ถึงแม้มีการเรียนรู้จัดการกับปัญหาเรื่องดังที่กล่าวถึงแล้ว ถ้าหากข้าราชการไม่ปฏิบัติหรือบังคับใช้ข้อบังคับ ก็ไร้ผล กลับมาสู่วังวนเดิมเพราะว่าผลตอบแทนแค่นั้น
กรณีมีการเสนอตั้งบ่อนถูกตามกฎหมาย เคยมีผู้ศึกษาเล่าเรียนมากมายว่า 20 ปีแล้ว แม้กระนั้นไม่อาจจะทำเป็น เนื่องมาจากถูกต้านทานกล่าวถึงว่าเป็นเมืองพุทธ ขัดกับจริยธรรมอันดี ทั้งๆที่ประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้นว่า มาเลเซีย ประเทศสิงคโปร์ เขมร ลาว และก็ประเทศพม่า มีบ่อนกาสิโนถูกตามกฎหมายมานานแล้ว เพื่อจัดเก็บค่าสัมปทาน ภาษี พร้อมที่จะจัดส่งเสริมท่องเที่ยวไปพร้อมตูด เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศอีกทางหนึ่ง
ถ้าหากให้ตั้งบ่อนถูกตามกฎหมาย จะต้องมีข้อบังคับรองรับ แล้วก็ระเบียบปฏิบัติทางปฏิบัติที่แจ่มกระจ่าง โดยตั้งเงื่อนไขผู้เข้าไปเล่น หรือเสี่ยงดวง ว่ามีอะไรบ้าง
ซึ่งผู้ที่เข้าไปเล่นการเดิมพันควรมีฐานะรวมทั้งรายได้สูงพอเหมาะพอควร ไม่ใช่ประชาชนทั่วๆไป จะต้องเห็นด้วยความเป็นจริงว่ายังมีแตกต่างทางด้านเศรษฐกิจแล้วก็สังคมอยู่มากมาย
เวลาเดียวกันบางทีอาจกำเนิดบ่อนโหดร้ายเพื่อรองรับตลาดข้างล่าง ไม่ต้องเสียภาษีอากร แม้กระนั้นจำเป็นต้องจ่ายส่วยแทน ซึ่งเป็นช่องโหว่การเปิดบ่อนเสรีเหมือนกัน เปรียบเทียบกับคนยากจนเล่นสลากกินแบ่ง คนมั่งมีเล่นหุ้นได้กระจ่างแจ้ง
ถ้าเปิดบ่อนเสรี ควรจะให้จังหวัดกรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดนำร่องก่อน หากบรรลุผลสำเร็จ ค่อยขยายสู่ภูมิภาคหรือเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวมากมายเป็นจำนวนมาก อาทิเช่น พัทยา จังหวัดชลบุรี จังหวัดภูเก็ต ขอนแก่น จังหวัดเชียงใหม่ เป็นลำดับ
แล้วก็นำการเล่นพนันออนไลน์ เป็นต้นว่า พนันหุ้น สลากกินแบ่ง บอล บัคคาร่าเข้าระบบรวมทั้งควบคุมให้ไม่ผิดกฎหมาย เพราะว่ามีเงินหมุนวนนับแสนล้านบาท/ปี เพื่อลดการไหลออกของเงินประเทศ แล้วก็ลดการเก็บส่วยนอกระบบของข้าราชการด้วย
สุธาสินี แก้วเหล็กไหล
คนประสานงานโครงข่ายเพื่อสิทธิแรงงานระหว่างชาติ (MWRN)
ในประเด็นการวิเคราะห์ แม้ว่าจะเกิดเรื่องสมัยก่อน หรือเรื่องใดๆ ถ้าหากโปร่งใส ขวานผ่าซาก ก็ย่อมเห็นผล แต่ว่าส่วนตัวเห็นว่า การตั้งคณะกรรมการคราวนี้ ควรมีหลายหน่วยงานเข้าไปด้วยกันจัดการกับปัญหาให้สำเร็จอย่างเป็นจริงเป็นจัง บางทีอาจจะควรมีหน่วยงานที่ไม่มีส่วนได้ ส่วนเสีย เป็นต้นว่า องค์กรอิสระ หน่วยงานสถานที่ทำงานด้านแรงงาน เข้าไปมีส่วนด้วย โดยร่วมดีไซน์แนวทางคิด แนวทางปฏิบัติ
ถามคำถามว่า กรรมวิธีทั้งปวงก่อนหน้านี้ เพราะเหตุไรถึงมีแรงงานดุร้ายเล็ดลอดเข้ามาได้ ก็เนื่องจากมีหน่วยงานเป็นผู้อำนวยความสะดวกใช่หรือเปล่า ด้วยเหตุดังกล่าว ก็เลยปราศจากความมั่นใจว่าถ้าหากเมืองจะจับฝ่ายเดียวปัญหาจะจบได้
ในส่วนของแนวทางจดทะเบียนแรงงานต่างประเทศ จำต้องพินิจพิเคราะห์ในเรื่องช่วงเวลาของการขึ้นบัญชีเพราะว่า 1.จะพอเพียงหรือเปล่า 2.รายจ่ายที่สูงขนาดนี้ เป็นได้หรือเปล่า ที่คนจะออกมา แล้วไปขึ้นบัญชีให้ตนเองถูกกฎหมาย นี่เป็นข้อเป็นห่วง
ดังนี้ ในสมัยก่อนไม่เคยมองเห็นการตั้งคณะกรรมการในลักษณะแบบนี้ มีแต่ว่าท่านนายกฯกล่าวว่า จะปรับประเด็นนี้ จัดแจงหัวข้อนั้น ท้ายที่สุด อีกครู่หนึ่งเรื่องก็แผ่วๆ พวกเราก็ลืมกันไป ราวกับว่า 3 วันลืม 7 วันลืม เพียงพอวัววิดเริ่มกลับมาระบาด ก็ราวกับปะทุขึ้นมาเกิดเรื่องใหม่อีก
ทั้งๆที่จริงปัญหากลุ่มนี้ เป็นปัญหาเดิมๆซ้ำๆซากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานหยาบคาย ซึ่งไม่ใช่แค่บ่อน หรือแรงงานไม่มีอารยธรรมเข้ามาอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายแค่นั้น แม้กระนั้นยังมีการที่เมืองเองก็เอาคนงานเข้ามา โดยไปเชิญให้เขาเป็นคนผิด คนไม่รู้เรื่องก็ย่อมกลายเป็นเหยื่อของคนโลภ ก็เลยเป็นอย่างงั้น
พวกเราก็เลยปราศจากความมั่นใจว่า ถ้าหากเมืองทำข้างดียวแล้วจะกำเนิดการบรรลุเป้าหมาย
ความรู้ มาสขาว
เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อระบบประชาธิปไตย (ครป.)
การตั้งคณะกรรมการ นับว่าเป็นลู่ทางหนึ่งที่ดี ที่จะจะต้องจัดการกับปัญหาแรงงานโหดร้ายอีกทั้งระบบ ซึ่งมีอีกทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ รวมทั้งทหารตามแนวชายแดน เนื่องจากเป็นที่รู้กันมาว่า ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาแรงงานไม่มีอารยธรรมถูกใช้เป็นอุปกรณ์ในระบบส่วย แล้วก็ธุรกิจสีเทาต่างๆที่เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้บังคับใช้ข้อบังคับ ยกเว้นการกระทำหน้าที่
ด้วยเหตุดังกล่าว การตั้งคณะกรรมการชุดนี้ ก็เลยเป็นหนทางหนึ่งที่ดี ที่จะสามารถบูรณาการ แล้วก็เอาผิดข้าราชการของเมืองที่ประพฤติผิดได้
แต่ว่าเรื่องจริงแล้ว ไม่ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาขนาดนั้น ถ้าเกิดเอาถูกจุดหมายถึงนายกฯมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด สามารถจัดการกับปัญหาได้โดยตรง ด้วยการจัดการผ่านกลไก สำนักงานคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือกลไกอื่นๆที่มีอยู่แล้ว
แม้กระนั้นควรต้องไม่เลือกพวก หรือผู้ที่ประพฤติมิชอบถ้าหากเอาตามจริง ในแต่ละระดับชั้นของข้าราชการ ตัวอย่างเช่น ระดับ ผู้บังคับบัญชาตำรวจหรือ ผู้บัญชาการทหารบกนั้น สืบรู้และก็เข้าใจอยู่แล้ว
โดยเหตุนั้น ถ้าเกิดจะถามความหวังประมือรมการชุดนี้ ก็คือการเสาะหาหลักฐานให้เป็นระบบ เพื่อจะเอามาจัดการกับปัญหาระบบ ส่วย หรือการใช้อำนาจเกลียดชัง จากข้าราชการที่เกี่ยวโยง ดังเช่นว่า ชายแดน จังหวัดตาก หรือภาคตะวันตก อย่างแม่น้ำเมยนั้น สั้นเล็กน้อย ผ่านไปๆมาๆได้ง่าย อีกทั้งช่วงเวลากลางวันและก็ยามค่ำคืน หากมีการขนแรงงานดุร้าย เจ้าหน้าที่รัฐย่อมเห็น
ก็เลยเห็นว่า มีระบบระเบียบค่าหัวอย่างที่พวกเรารู้กันแน่ๆ หากรัฐบาลจะจัดแจงอย่างเอาจริงเอาจัง สามารถทำระบบคุ้มครองป้องกันได้ยกตัวอย่างเช่น ในหัวข้อการพิจารณา ส่งคนไปทำหน้าที่ สำรวจคุ้นเคย หรือบันทึกกล้องวงจรปิด และก็เอาข้อมูลส่งตรงไปยังศูนย์กลางของจังหวัด ก็ย่อมได้
โดยแบ็กอัพข้อมูลไว้ แนวทางนี้ก็มีความรู้สึกว่า คงจะจับได้ทั้งสิ้น แม้กระนั้นนายกรัฐมนตรีอย่าใช้กระบวนการตั้งผู้ตัดสินเพื่อยืดเวลาเท่านั้นเป็นเพียงพอ
ถามหาความมั่นใจ จากการตั้งคณะกรรมการชุดนี้ ก็จำต้องพูดว่า ผู้มีอิทธิพลในตอนนี้ โดยยิ่งไปกว่านั้นฝ่ายบริหารประเทศชาติ เพียรพยายามทำมาหากินกับเศรษฐกิจสีเทาอยู่
ย้อนไปตอนหนึ่ง สมัยก่อนนายกรัฐมนตรีก็เชื้อเชิญบุคคลที่มีผลในธุรกิจสีเทา มาเป็นที่ปรึกษานายกฯ รัฐบาลปัจจุบันนี้ก็เชิญชวนบางบุคคลที่เข้าใจระบบธุรกิจสีเทาอย่างยอดเยี่ยม มาเป็นรัฐมนตรีด้วย แม้กระนั้นไม่เคยคิดทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ด้วยเหตุว่าธุรกิจสีเทาตั้งรกรากลึกกับข้าราชการดูแล แล้วก็ตำรวจ ต่อเนื่องกันกับระบบชั้นยศ การค้าขายตำแหน่ง และก็การเลือกย้ายไปอยู่ภายในเขตพื้นที่ดีๆ
ซึ่งตั้งหลักปักฐานลึกตรงที่เมื่อรับส่วย แต่ละชั้นก็ส่งต่อ เพื่อที่เมื่อถึงฤดูเคลื่อนย้าย จะได้ขอโรงพักดีๆ
ด้วยเหตุดังกล่าว ก็เลยปราศจากความบริสุทธิ์ใจ ที่ผู้มีอิทธิพลจะเอาขึ้นมาถูกต้องตามกฎหมาย ด้วยเหตุว่ามีรายได้ประจำเดือน ขาดไปจะยิ่งยุ่ง
พวกนี้ เป็นปัญหาหลักของเมืองไทย ที่องค์ประกอบผิดเปลี่ยนแปลงโดยชอบด้วยกฎหมาย ที่มีการเสนอการปรับปรุงประเทศในด้านต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับปรุงตำรวจ ซึ่งรัฐธรรมนูญก็เขียนไว้ว่า 1 ปี จำเป็นจะต้องทำงานให้เสร็จ
แม้กระนั้นผ่านมานับเป็นเวลาหลายปีแล้ว รัฐบาลก็มิได้นำพาตามรัฐธรรมนูญ’60 จัดว่าไม่ถูกรัฐธรรมนูญด้วย
ถ้าเกิดจะเรียกร้องแล้วก็มุ่งหวังขอเรียกร้องไปยัง พล.อำเภอประวิตร วงษ์ทอง ซึ่งหลายภาคส่วนมีความเห็นว่าเป็นผู้กุมอำนาจในประเทศไทย และก็มีอำนาจสูงสุดที่จะตั้งขึ้นรัฐบาล ด้วยเหตุว่าเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชากรเมือง ถ้าหากจะฝากผลงานไว้ภายในตอนปลาย เนื่องจากใครหลายๆคนไม่มุ่งหวังพล.อำเภอประยุทธ์แล้ว เนื่องมาจากกล่าวว่าจะทำหัวข้อนั้น ประเด็นนี้ก็ไม่ตั้งใจจริงเสียรู้
ปัญหาบ่อนแก้ได้ ถ้าเกิดสุจริตใจ ด้วยการปรับปรุงส่วนประกอบอำนาจตำรวจ จัดการกับปัญหาค้าขายตำแหน่ง โดยปรับการเลื่อนชั้น ตำแหน่ง ตำแหน่ง ย้ำระบบอาวุโสมากขึ้นสัก 60 เปอร์เซ็นต์ อีก 40 เปอร์เซ็นต์ เป็นตำรวจประสิทธิภาพ ก็มั่นใจว่าคงจะปรับแก้ระบบส่วยได้
เพราะว่าระบบส่วยในธุรกิจไม่ถูกกฎหมาย ก็มาจากข้าราชการในท้องที่ และก็ผู้กำกับการก็จัดแบ่งเงิ
วิพากษ์ตั้ง กิโลกรัมสางบ่อน-แรงงานไม่ถูก กิโลเมตร แก้ไขปัญหาหรือเพียงแค่ยืดเวลา?!
