‘ธีรินทร์’ เดินหน้า ‘ข้าวไก่แจ้ Support ปี2’ แจกข้าวสารร้าน ช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจสมัยวัววิด


‘ธีรินทร์’ เดินหน้า ‘ข้าวไก่แจ้ Support ปี2’ แจกข้าวสารร้านรวง ช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจสมัยวัววิด
“พวกเราจะรอดไปมิได้ถ้าเกิดไม่ให้ความช่วยเหลือกัน”ทรรศนะของ ธีรินทร์ มั่งมีญวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพเราะร่ำรวยทรัพย์สิน จำกัด ผู้สร้างแล้วก็ขายข้าวสารใส่ถุงแบรนด์ “ไก่แจ้” ที่มีต่อเหตุการณ์การระบาดระลอกใหม่ของเชื้อไวรัสวัววิด-19
ก็เลยเป็นที่มาสำหรับในการสืบต่อโครงงาน “ข้าวไก่แจ้Support ปี2”ต่อลมหายใจผู้ประกอบกิจการห้องอาหารปีที่ 2 เดินสายแจกข้าวสารยี่ห้อไก่แจ้ 1 เดือน 10 ร้าน ตราบจนกระทั่งเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสวัววิด-19จะคลี่คลาย
 
“เพราะเหตุว่าพวกเราอยากที่จะให้ทุกคนได้ไปต่อ โดยไม่เคยรู้สึกสันโดษ ข้าวไก่แจ้ขอร่วมต่อสู้ เป็นอย่างยิ่งหัวใจให้กับผู้ประกอบธุรกิจห้องอาหารทุกร้านค้าด้วยการมอบข้าวสารยี่ห้อไก่แจ้ให้ทุกเดือนๆละ 10 ร้านขายของ” ธีรินทร์ กล่าว แล้วก็ว่า
ภายหลังจากเหตุการณ์วัววิด-19 เริ่มดียิ่งขึ้นมา พวกเราก็เริ่มหันมามองในส่วนของผู้ประกอบธุรกิจร้านรวง-ห้องอาหาร พวกร้านเล็กๆที่เผชิญกับปัญหาในตอนเศรษฐกิจไม่ดี เนื่องจากว่าคนเป็นวัววิดมากขึ้นทำให้กลัวที่จะออกมาจากบ้านกันเยอะขึ้นเรื่อยๆ นำมาซึ่งการทำให้จับจ่ายลดลง และก็หันมาซื้อกลับไปทานที่บ้านมากเพิ่มขึ้นกว่าการนั่งทานที่ร้านค้า

“ผลพวงหนึ่งเป็นทำให้ร้านขายของเล็กๆบางร้านค้าที่มิได้ทราบในเรื่องเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี ถูกตัดขาด บางร้านค้ายอดจำหน่ายหายไป 80-90% อย่างยิ่งจริงๆ แต่ว่ายังคงจะต้องจ่ายค่าเช่าที่ เงินเดือนลูกน้อง พวกเราก็เลยเข้าไปเพิ่มสำหรับเพื่อการซัพพอร์ตกรุ๊ปห้องอาหาร ร้านเล็กๆที่อยู่ในแต่ละเมือง ช่วยดูดซับพอร์ตพนักงานการแพทย์ด้วยการมอบข้าวให้โรงหมอเดือนละ 10 ที่ แล้วก็มอบข้าวให้ชุมชน รวมทั้งผู้ประกอบธุรกิจที่ตกระกำลำบากจากวัววิด แล้วก็ผู้เผชิญอุทกภัยในตอนก่อนหน้าที่ผ่านมา

“มาถึงปีนี้พวกเราก็เลยต้องการทำโครงงานสม่ำเสมอเนื่องจากว่าจากการคาดคะเนเหตุการณ์การระบาดของวัววิด-19 แล้ว อย่างต่ำในครึ่งปีต่อไปเหตุการณ์ยังคงไม่ดีขึ้น ยังไม่มีนักเดินทางจากต่างแดนเข้ามา รวมทั้งการใช้ชีวิตแบบเดิมที่คนจะออกมาใช้เงินยังคงไม่สามารถกลับมาได้ พวกเราก็เลยต้องการที่จะเดินหน้าตัวแผนการ “ไก่แจ้ SUPPORT” ต่อเป็นปีที่ 2 แม้ว่าบางครั้งอาจจะไม่อาจจะช่วยสร้างยอดจำหน่ายหรือผลกำไรให้แก่ร้านรวงได้ แม้กระนั้นพวกเราอยากที่จะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดสำหรับเพื่อการช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ประกอบกิจการ ให้พวกเขายังคงสามารถดำเนินธุรกิจถัดไปได้ พร้อมกับบางครั้งก็อาจจะเปิดตัว “โครงงาน 12 มูลนิธิ 12 เดือน” ที่เน้นย้ำไปที่กลุ่มของผู้คนไม่ค่อยได้รับโอกาศ เพราะเหตุว่าสังคมไทยเป็นสังคมของการให้ และก็การแบ่งปัน” ธีรินทร์ เปิดเผย

ธีรินทร์ บอกเหตุว่า ความสะอาดปลอดเชื้อโรคเป็นเรื่องจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนการระบาดของวัววิด-19 ข้าวยี่ห้อไก่แจ้เข้าใจในเรื่องความไม่สบายใจนี้ โดยขอให้ผู้ใช้มั่นอกมั่นใจในความปลอดภัยของข้าวยี่ห้อไก่แจ้ทุกถุง เนื่องจากใช้กรรมวิธี Automation ใช้เครื่องจักรทุกแนวทางการผลิต ระบบคมนาคมมีการชำระล้างก่อนโหลดบุคลากรมีระบบระเบียบเซฟตี้

แต่ ธีรินทร์ สะท้อนถึงการปรับตัวในสมัยที่สังคมมีความเปราะบางต่อการแพร่ไปของเชื้อไวรัสว่า พวกเรามีการปรับนิสัยมาตลอดอยู่แล้ว โดยในปี 2563 ก่อนหน้านี้พวกเราแปลงทุกสิ่งทุกอย่างมาเป็นออนไลน์แทน ทั้งยังการสัมมนา การวางเป้าหมายงานต่างๆรวมทั้งวิถีทางการขายที่พวกเราหันมาทำในส่วนของออนไลน์เยอะขึ้นทำให้พวกเราสามารถเพิ่มฐานลูกค้าได้มากเพิ่มขึ้น ก็เลยทำให้ในปีนี้พวกเราไม่ต้องปรับนิสัยอะไรมากมาย
ด้านการซัพพอร์ตผลิตภัณฑ์ตามความปรารถนาของผู้ส่งเสริมเชิงพาณิชย์รวมทั้งตลาด กรรมการผู้จัดการแบรนด์ข้าวสารยี่ห้อไก่แจ้ พูดว่า ข้าวเป็นความจำเป็นต้องฐานรากของชีพทุกคน ขอรับรองกับผู้สนับสนุนเชิงพาณิชย์ทุกคนว่า พวกเรามีสต็อกผลิตภัณฑ์ในทุกภูมิภาค มีวัตถุดิบที่สต็อคไว้ถึง 3 เดือน กรรมวิธีการผลิตก็เลยมีความเกี่ยวเนื่อง ผลิตภัณฑ์ไม่ขาดแน่ๆ โดยทางบริษัทมีโรงงานการสร้าง 2 ที่ รองรับการทำงาน ในเรื่องที่บางทีอาจเกิดเหตุเร่งด่วน

“โดยในปี 2564 นี้พวกเราได้เดินหน้าต่อด้วยการขยายฐานลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น ย้ำไปที่กรุ๊ปลูกค้าต่างถิ่นผ่านทางออนไลน์มากเพิ่มขึ้นกว่าเดิมที เนื่องจากว่าในปี 2563 ตลาดต่างถิ่นโตขึ้นจากเดิมสูงถึง 30% โดยแบรนด์พวกเราได้บุกตลาดต่างชาติในโซนยุโรปไปแล้ว 7 ประเทศ”กรรมการผู้จัดการแบรนด์ข้าวสารยี่ห้อไก่แจ้ เปิดเผย
ดังนี้ ธีรินทร์ บอกเพราะ ธุรกิจที่บริหารอยู่ปัจจุบันนี้ มี ธุรกิจโฮเต็ล 2 ที่หมายถึงธาริส อาร์ท โฮเทล ที่จังหวัดแพร่ รวมทั้งราชา เรสสิเดนซ์ ที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี , บริษัท เพราะมั่งมีทรัพย์สมบัติ จำกัด ขายข้าวสารยี่ห้อไก่แจ้ แล้วก็ บริษัท ครั้งอาร์ ไทยฟู้ดส์ จำกัด จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ขนมไทยโบราณภายใต้แบรนด์แม่นภา
ดังนั้น ส่วนของตลาดในประเทศที่ขยายไปสู่ฟู้ดเซอร์วิส ร้านต่างๆในพื้นที่ที่กว้างมากเพิ่มขึ้นกว่าเดิม โดยเน้นย้ำแนวทางการทำตลาดในประเทศอยู่ที่ 85% รวมทั้งเมืองนอกอยู่ที่ 15% เพราะว่าแบรนด์พวกเราเป็นแบรนด์สำนักงานตลาดมาอย่างสม่ำเสมอ พวกเรามีการรับรองในประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ ส่วนในเรื่องของราคาผลิตภัณฑ์ของพวกเราก็แพงขายที่สมควรสามารถช่วยลดรายการจ่ายให้กับลูกค้าได้ รวมทั้งพวกเรายังมีการบริการจัดส่งผลิตภัณฑ์ถึงที่ ซึ่งนี่นับได้ว่าเป็นคุณลักษณะเด่นของแบรนด์พวกเราที่ทำให้ลูกค้าไว้เนื้อเชื่อใจ

“ในมุมมองของผม ผมเห็นว่าผลพวงจากเหตุการณ์วัววิด-19 ระลอก 2 ในปี 2564 นี้ ไม่น่าจะห่วยกว่าปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุว่าคนประเทศไทยมีการปรับนิสัยแล้ว มีความสามารถในวัววิดมากเพิ่มขึ้น มีความตื่นตระหนกลดลง และก็รู้จักสำหรับในการป้องกันภัยเยอะขึ้น รวมทั้งทางฝั่งรัฐบาลเองก็มิได้มีนโยบายที่จะล็อกดาวน์ แม้กระนั้นหันมารณรงค์ในด้านการคุ้มครองมากเพิ่มขึ้น ก็เลยทำให้เศรษฐกิจก็ยังพอที่จะสามารถเดินหน้าถัดไปได้ เรียกกล้วยๆว่าอยู่ได้ทั้งยังวัววิด-19 และก็เศรษฐกิจ” ธีรินทร์ กล่าว รวมทั้งว่า ถึงยังไง ธุรกิจต่างๆบางทีอาจจะจำต้องเริ่มปรับนิสัยให้เร็ว โดยยิ่งไปกว่านั้นธุรกิจที่ยังจำต้องพึ่งกับต่างแดน ที่จะจำเป็นต้องรีบหาหนทางสำหรับในการจัดแจง รวมทั้งการจัดการค่าใช้สอยต่างๆสำหรับการปรับพฤติกรรมบางครั้งอาจจะจะต้องรอคอยให้วัววิด-19 หายก่อนและหลังจากนั้นก็ค่อยดำเนินธุรกิจต่อ หรือแปลงมารวมกลุ่มลูกค้าชาวไทยแทน เพื่อธุรกิจสามารถดำเนินอยู่ได้ถัดไป
ในด้านการเกื้อกูลสังคม ธีรินทร์ กล่าวตบท้ายว่า โครงงาน “ข้าวไก่แจ้ Support ปี2”ผมเห็นว่าอย่างต่ำข้าวที่พวกเราบริจาคก็สามารถนำไปช่วยผู้ที่ขาดเงิน ให้อิ่มท้องได้ เพราะเหตุว่าข้าวเป็นของกินเบื้องต้นที่ทุกคนทานอยู่แล้ว
“พวกเรามั่นใจว่าถ้าเกิดพวกเราช่วยสังคมไปแล้ว แล้วสังคมดียิ่งขึ้น ในที่สุดแล้วมันก็จะกลับมาสู่ตัวเรา”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *