ตำรวจแสตนบาย ต่อกรม็อบ 24 มี.ค. ตามหลักสากล ลั่นโพสต์เชื้อเชิญรวมกันมีความผิด


ตำรวจสแตนด์บาย ต่อกรม็อบ 24 มี.ค. ตามหลักสากล ลั่นโพสต์เชื้อเชิญรวมกันมีความผิด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มี.ค. ที่ศูนย์บัญชาการตำรวจนครบาล (แผนกบัญชีน.) พล.ตำบลตำบลปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. รวมทั้งผู้ประกาศ แผนกบัญชีน. พล.ตำบลตำบลจิรสันต์ แก้วแสงสว่างเอก รอง ผบช.น. และก็ พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนรุ่งเรือง รองผู้ประกาศ ตำรวจแถลงข่าวการดูแลและรักษาความสงบรวมทั้งการให้ความสะดวกด้านการจราจรกรณีของกรุ๊ปผู้ประชุมนัดหมายรวมกลุ่มตามแนวรถไฟฟ้า
พล.ตำบลตำบลปิยะเผยการเตรียมความพร้อมสำหรับการรวมกันนั้น แนวร่วมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้วก็การรวมกันนัดแนะรวมกัน 17.00 น. ตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่ง กรุงเทพมหานคร เป็นหลักป้ายประกาศห้ามประชุม มีความผิดตาม พระราชกำหนดรีบด่วน และก็พระราชบัญญัติควบคุมโรค คนชักชวนโพสต์เนื้อความ และก็ผู้มาชุมนุมนับว่าเป็นผู้ร่วมกระทำผิด ตำรวจจะทำหน้าที่เพื่อความสงบ คุ้มครองป้องกันโชคร้ายเป็นไปตามหลักสากล
ส่วนเหตุการณ์การข่าวสารนั้น พล.ตำบลตำบลปิยะบอกว่า ทางข้าราชการมีข้อมูลระดับหนึ่งจำต้องมองเหตุการณ์ตอนบ่ายอีกที ส่วนความระส่ำระสายที่บางทีอาจเกิดขึ้นนั้น จำต้องมองลักษณะพื้นที่เป็นยังไง พล.ตำบลท.ภัคเหล่ากอ ดงษ์เรือสำเภา ผบช.น.ออกคำสั่งให้ ผบกรัมน.1-9 ที่มีอยู่ในแนวรถไฟฟ้าจัดกำลังผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไปดูแล โดย แผนกบัญชีน.จะมีกำลังเสริมอีกส่วนใดส่วนหนึ่ง รวมทั้งเตรียมตัวเคลื่อนย้ายรวมทั้งเสริมกำลัง ส่วนกรณีกรุ๊ปผู้ประชุมยื่นหนังสือถึง แผนกบัญชีน.ทางมาตรการประชุมนั้น จำต้องตรวจดูเป็นกรณีไป การยื่นหนังสือให้ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อำนวยความสะดวกด้านการประชุมให้กับกรุ๊ปผู้ชุมชุมไม่อาจจะทำได้เหตุเพราะมีประกาศโดยชอบด้วยกฎหมาย

ส่วนการตั้งเวทีนั้น พล.ตำบลตำบลปิยะบอกว่า ไม่อนุญาตให้มีการตั้งเวทีอยู่แล้ว เพียงการรวมตัวกันถือได้ว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย แต่ ลักษณะความประพฤติปฏิบัติผู้ประชุมไม่ก่อความลำบาก การกระทำในการเสี่ยงสำหรับการก่อไฟอาจส่งผลให้กำเนิดไฟไหม้อย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาหลายพื้นที่ ตำรวจมีความสำคัญจำเป็นต้องยับยั้งยั้ง ส่วนกรณีมีสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บจากการกระทำหน้าที่ของตำรวจในเหตุปะทะกับผู้รวมกันจะมีการสัมมนาเกี่ยวกับการให้ความรู้ความเข้าใจระหว่างสื่อมวลชนกับการกระทำหน้าที่ตำรวจถัดไป
ด้านพันตำรวจเอกกฤษณะพูดว่า กรณีมีสื่อฟ้อง ตำรวจต่อศาลแพ่งข้างหลังได้รับบาดเจ็บถูกลูกกระสุนปืนยางยิงจากการกระทำหน้าที่ตำรวจในวันที่ 20 มี.ค. ภายหลังที่มีการบังคับใช้ข้อบังคับดำเนินการตามเดิม ควรจะมีการทบทวนความบกพร่องแก้ไขให้เป็นไปตามข้อบังคับ ดังนี้ การกระทำการบังคับใช้ข้อบังคับสำหรับการเข้าควบคุมพื้นที่ถ้าหากไม่มีการก่อความไม่สงบเกิดขึ้นจะมีการพูดจาเป็นหลักละเว้นการก่อความไม่สงบ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จะไม่ปลดปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แย่ลงกว่าเดิม ไม่ให้กระทบพลเมืองรอบๆพื้นที่
“พล.อำเภอประยุทธ์ จันทร์อร่อย นายกฯ ได้สั่งให้ พล.ตำบลอำเภอสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บังคับบัญชาตำรวจ ทวนการกระทำต้องกำหนดหนทางที่กระจ่าง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แย่ลงกว่าเดิมมากยิ่งขึ้น ทางตำรวจฝากถึงสื่อมวลชนอยู่จับกลุ่มในแนวที่ปลอดภัย เชื่อฟังคำบัญชาของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์แล้วก็ตัวบ่งชี้สำหรับเพื่อการแบ่งข้าง แม้กระนั้นบางคราวมีช่างถ่ายรูปอยู่ในจุดเสี่ยงเกินความจำเป็น ขอให้รอบคอบสำหรับในการทำหน้าที่ ส่วนกรณีการร้องทุกข์การกระทำงานของข้าราชการนั้น เป็นสิทธิของผู้ได้รับผลพวงจะฟ้องศาลไม่ใช่เพียงแค่สื่อมวลชน แต่ว่าบุคคลอื่นที่ได้รับผลพวงก็สามารถฟ้องได้ แต่ว่าจะต้องมองในหัวข้อเหตุผลและก็สิ่งที่ต้องการว่ามีลักษณะเป็นยังไง” รองผู้ประกาศ ตำรวจกล่าว
ด้านพล.ตำบลตำบลจิรสันต์บอกว่า ส่วนงานด้านการจราจรนั้น จากข้อมูลด้านการข่าวสารนัดหมายรวมกันที่แนวรถไฟฟ้าเป็นหลักในเวลา 17.00 น. นั้น ไม่มีการปิดการจราจรอะไร จะอำนวยความสะดวกพ่อแม่พี่น้องทุกทาง ก่อน 13.00 น. ที่จะมีการรวมกลุ่ม ควรจะคิดแผนสำหรับในการเดินทางในแนวหลักถนนหนทางสุขุมวิท ถนนหนทางพหลโยธิน ขอให้มีการคิดแผนล่วงหน้า ส่วนวิถีทางเมื่อรวมตัวกันแนวรถไฟฟ้าขอให้ติดตามข่าวสารทางเบอร์ 1197 แล้วก็เว็บ http://www.trafficpolice.go.th แอพพลิเคชั่น M-Hlep me และก็แอพพลิเคชั่นไลน์ @POLICE TRAFFIC NEWS